fbpx

AMATAYA WELLNESS

รักษาได้ไว ห่างไกลเป็นอัมพาต “โรคหลอดเลือดสมอง”
หนึ่งในโรคที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุด

เพราะทุกนาทีมีค่าอาจหมายถึง ‘ชีวิต’ จากสถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของโลก พบผู้ป่วยจำนวน 80 ล้านคนทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตประมาณ 5.5 ล้านคน และยังพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นถึง 14.5 ล้านคนต่อปี โดย 1 ใน 4 เป็นผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป และร้อยละ 60 เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ส่วนในประเทศไทยพบผู้ป่วยปีละประมาณ 300,00 คน และมีผู้เสียชีวิตปีละประมาณ 30,000 คน นับเป็นโรคร้ายที่ประชากรโลกถึง 1 ใน 4 มีความเสี่ยงและมีโอกาสที่จะเป็น ด้วยความรุนแรงของโรคที่อาจทำให้พิการหรือเสียชีวิต ที่ “Amataya Wellness” เข้าใจและเห็นความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยโรคนี้โดยเฉพาะ ทั้งด้านการฟื้นฟู การดูแลกิจวัตรประจำวัน โภชนาการ สภาพแวดล้อม และสถานที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

มารู้จักกับโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) สัญญาณเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke เป็นโรคที่พบบ่อยเป็นอันดับสามรองจากโรคหัวใจและโรคมะเร็ง พบได้โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเมื่อเกิดโรคแล้วจะก่อให้เกิดอาการต่างๆ ทางระบบประสาท ซึ่งเกิดจากการที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ เนื่องจากหลอดเลือดตีบ มีไขมันเกาะตามผนังหลอดเลือด มีการแตกของหลอดเลือดสมอง หรือมีการอุดตันของหลอดเลือดสมองจากการที่มีลิ่มเลือดลอยไปอุดตันหลอดเลือดที่มีความเปราะบางกว่าปกติ ทำให้เนื้อเยื่อในสมองบางส่วนถูกทำลายไป แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

  1. โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน หรือภาวะสมองขาดเลือด ( Ischemic Stroke ) หรือที่เรียกกันว่า ‘เส้นเลือดในสมองตีบ’ สาเหตุหลักมาจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือด การสะสมของไขมัน หรือหินปูน บริเวณผนังหลอดเลือดชั้นในเป็นเวลานาน จนหนาและแข็ง ทำให้เส้นเลือดขาดความยืดหยุ่น ส่งผลให้หลอดเลือดค่อยๆ ตีบ และแคบลง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ในผู้ป่วยมากถึง 80% เลยทีเดียว ส่วน ‘ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว’ (Transient ischemic attack -TIA) ภาวะนี้จะมีอาการคล้ายกับโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน แต่จะเป็นเพียงแค่ชั่วคราว หรือระยะหนึ่งเท่านั้น ไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่ความน่ากลัวก็คือ หากมีอาการจะต้องรีบส่งเข้ารักษาตัวกับแพทย์โดยทันที เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
  2. โรคหลอดเลือดสมองแตก หรือภาวะหลอดเลือดสมองแตก ( Hemorrhagic Stroke ) หรืออีกชื่อคือ ‘ภาวะเลือดออกในสมอง’ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความดันโลหิตสูง ทำให้หลอดเลือดเปราะและโป่งพอง ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือการรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น เมื่อเกิดภาวะเลือดออกในสมอง จะส่งผลให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บ เพราะเลือดคั่งในสมองนั่นเอง

ลดความเสี่ยง...เลี่ยงพฤติกรรมอันตรายที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นอาการของแขน หรือใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งชา อ่อนแรง เคลื่อนไหวลำบาก หรือเคลื่อนไหวไม่ได้อย่างทันทีทันใด เราจึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมหรือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ดังนี้
  • ความดันโลหิตสูง : ภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงความดันในหลอดเลือดที่สูงขึ้น ทำให้หลอดเลือดเสื่อม เนื่องจากแรงดันเลือดที่ออกมาจากหัวใจมีแรงดันสูงขึ้น ทำให้ผนังหลอดเลือดเสื่อมเร็ว ขาดความยืดหยุ่น และแตกเปราะง่าย พบว่ากว่า 35 – 73 % ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มีภาวะคามดันโลหิตสูงร่วมด้วย
  • โรคเบาหวาน : ถือเป็นปัจจัยสำคัญรองมาจากภาวะความดันโลหิสูง เพราะผู้เป็นเบาหวานมีโอกาสเกิดปัญหาหลอดเลือดแดงตีบแข็งที่สมอง ส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนที่ไม่เป็นเบาหวาน 3-4 เท่า เมื่อหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน ทำให้สมองขาดเลือดและออกซิเจน เนื้อสมองตาย ผู้ที่เป็นเบาหวานอาจมีอาการชาครึ่งซีก หรืออ่อนแรงแขนขาครึ่งซีก หากสมองขาดเลือดเป็นบริเวณกว้างหรือส่งผลต่อศูนย์ควบคุมการหายใจ จะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาต ต้องนอนติดเตียง เกิดโรคติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย และเสียชีวิตได้เช่นกัน
  • ไขมันในเลือดสูง : ภาวะที่ร่างกายมีปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดมากกว่าปกติ ทำให้ผนังเส้นเลือดแดงไม่ยืดหยุ่น เกิดการตีบตันง่าย เลือดจึงไหลผ่านไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้น้อย หากเกิดกับหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง จะทำให้สมองขาดเลือดและเป็นอัมพาตในที่สุด
  • ความอ้วน : สำหรับโรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดสมอง และยังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ซึ่งโรคเหล่านี้ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองเช่นเดียวกัน
  • การสูบบุหรี่และการดื่มสุรา : เพราะการดื่มสุราจะทำให้หลอดเลือดเปราะ หรือเลือดออกง่าย เช่นเดียวกับผู้ที่สูบบุหรี่จะพบว่ามีอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
  • ภาวะเลือดข้นกว่าปกติ : ซึ่งอาจเกิดจากมีเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดขาว หรือเกล็ดเลือดมากผิดปกติในบางรายอาจเกิดจากความผิดปกติของโปรตีนที่ใช้ในการแข็งตัวของเลือด
  • โรคหัวใจ และอายุที่มากขึ้น : โรคหัวใจวาย โรคลิ้นหัวใจรั่วหรือผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดลิ่มเลือด และถ้าลิ่มเลือดอุดตันที่หลอดเลือดสมองก็จะทำให้สมองเกิดอาการขาดเลือดได้ รวมถึงอายุที่มากขึ้นจะมีความสัมพันธ์ต่อการเสื่อมของหลอดเลือดได้เช่นกัน

Amataya Wellness ศูนย์บำบัดและฟื้นฟูดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองครบวงจร ด้วยมหัศจรรย์จากน้ำพุร้อนเค็มแห่งแรกในประเทศไทย

ยกระดับการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ด้วยมหัศจรรย์ของน้ำพุร้อนเค็มธรรมชาติ ที่จะช่วยบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ให้กลับคืนมาได้ใกล้เคียงเดิมมากที่สุด ผสานการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันและเครื่องมือที่ทันสมัย โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สัมผัสธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่แสนผ่อนคลาย
  • ศูนย์ฟื้นฟูเฉพาะทางด้วยน้ำพุร้อนเค็มแห่งแรกในประเทศไทย

ศูนย์สุขภาพแห่งการบำบัดและฟื้นฟูดูแลแบบครบวงจรทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ทั้งกายภาพบำบัด และกิจกรรมบำบัด

  • ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแล

ประหยัดเวลาคนในครอบครัว ค่าใช้จ่ายในแพคเกจรวมบริการการฟื้นฟูและกายบำบัด การดูแลกิจวัตรประจำวัน และโภชนาการ

  • ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและเจ้าหน้าที่ใส่ใจดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ทางวิชาชีพที่ผ่านการอบรมมาอย่างถูกต้องด้วยมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลชั้นนำ พร้อมดูแลผู้รับบริการเป็นอย่างดี

  • พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สิ่งแวดล้อมดีให้ความผ่อนคลาย

สถานที่กว้างขวางรายล้อมไปด้วยบรรยากาศแบบธรรมชาติ มีสวนพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับความผ่อนคลายมากที่สุด

  • ทำเลดี หากเกิดภาวะฉุกเฉินก็หายห่วง

อยู่ใกล้สถานพยาบาล 9 แห่ง หากเกิดภาวะฉุกเฉินมีรถคอยเตรียมพร้อมนำส่งโรงพยาบาลได้ทันที

Amataya Wellness ศูนย์สุขภาพครบวงจร ด้วยความมหัศจรรย์ของน้ำพุร้อนเค็มธรรมชาติ พร้อมมอบประสบการณ์การดูแลแบบเหนือระดับ รวมถึงการฟื้นฟูร่างกายจากโรคต่างๆ การปรับสมดุลของร่างกายพร้อมช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในระยะยาว ทำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองได้รับการฟื้นฟูเพื่อกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้มากที่สุด